ค่ายธรรมชาติวิทยา ณ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
- lee

- Jun 23
- 1 min read

“เด็กๆ วันนี้เราจะพากันเดินทางเข้าสู่ป่าห้วยขาแข้ง ป่าแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่คือหัวใจแห่งธรรมชาติของประเทศไทย และเป็นสถานที่ที่ชายคนหนึ่งยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องมันไว้ เขาชื่อว่า สืบ นาคะเสถียร เราจะได้เรียนรู้จากรอยเท้าที่เขาเคยเดิน และจากเสียงเงียบของธรรมชาติที่กำลังสอนเราอย่างนุ่มนวล”
การเดินทางของชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กำลังจะได้สัมผัสประสบการณ์การออกเดินทางสู่ผืน
ป่าห้วยขาแข้ง
ป่าใหญ่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ โดยการเรียนรู้ผ่านการสังเกตและสัมผัสธรรมชาติจริงๆ ตั้งแต่เสียงใบไม้ไหวในยามเช้า กลิ่นของดินชื้นหลังฝนตก ไปจนถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตในลำธารใส
หนึ่งในหัวใจสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ คือการได้เรียนรู้ถึงสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำเล็กๆ ที่เงียบงัน แต่กลับมีพลังบอกเล่าระดับความสมบูรณ์ของระบบนิเวศได้อย่างแม่นยำ เด็กๆจะได้รู้จักกับสัตว์ตัวจิ๋วที่อาศัยอยู่ในน้ำ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังจะได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในผืนป่า อย่างมีสมดุลและพึ่งพากันอย่างลึกซึ้ง


ในทุกตารางนิ้วของผืนป่าแห่งนี้ มีชีวิตนับไม่ถ้วนที่ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระบบนิเวศ คือความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างต้นไม้ ใบหญ้า ดิน น้ำ สัตว์ป่า และสิ่งมีชีวิตเล็กจิ๋วที่แทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พวกเขาต่างพึ่งพาและเกื้อกูลกันอย่างไม่ต้องมีคำสัญญาแต่มี “ความสมดุล”
เป็นสัญญาทางธรรมชาติที่ยึดโยงกันไว้อย่างแน่นแฟ้น นกนานาพันธุ์บางชนิดหาดูได้ยากในโลกใบนี้
กลับโบยบินอย่างอิสระอยู่เหนือเรือนยอดไม้ เด็กๆที่ได้มาเยือนจะได้เงยหน้าฟังเสียงนก ดูเงาปีกที่เฉียดผ่านแสงแดด และรับรู้ว่าเรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางระบบชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจสร้างขึ้นใหม่ได้ด้วยมือมนุษย์
การเรียนรู้ธรรมชาติที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การจดจำชื่อพันธุ์ไม้หรือสัตว์ แต่คือการเข้าใจว่าทุกชีวิตในป่ามีค่า มีหน้าที่ และควรได้รับการเคารพ ไม่ทำร้าย ไม่เบียดเบียน และที่สำคัญที่สุด คือการเรียนรู้ที่จะ "อนุรักษ์"
ทั้งหมดนี้จะถ่ายทอดผ่านคำแนะนำของพี่ๆ ผู้พิทักษ์ป่ารุ่นปัจจุบัน บุคคลธรรมดาผู้ยิ่งใหญ่ ที่อุทิศหัวใจและเวลาในการดูแลผืนป่าแทนพวกเราทุกคน พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ แต่เป็น“ผู้ดูแลจังหวะชีวิตของธรรมชาติ” ที่สืบทอดเจตนารมณ์จากอดีตถึงปัจจุบัน


ธรรมชาติไม่ต้องการความสงสาร...มันต้องการความเข้าใจ’ ดังนั้นอย่ามองสัตว์หรือต้นไม้เป็นสิ่งที่อ่อนแอ แต่จงมองว่าทุกชีวิตล้วนมีหน้าที่ของมัน เหมือนกับพวกเราที่มีหน้าที่เรียนรู้แลปกป้อง”เด็กๆลองหลับตาแล้วฟังเสียงของธรรมชาติรอบตัว…
นั่นแหละคือเสียงที่คุณสืบฝากไว้ให้พวกเรา เสียงที่ขอให้เรารักป่า และไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งเราเคยเดินอยู่ในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิต และความหวังของแผ่นดิน”
























Comments