หากคุณกำลังลิงโลดพูดอวดเพื่อนๆ ด้วยความภูมิใจว่าลูกไม่ยอมนอนทั้งคืนเพราะต้องทำโครงงานวิทยาศาสตร์ให้ออกมาเป๊ะที่สุด อาการนี้อาจต้องหยุดคิดสักหน่อยเพราะมันมีเส้นบางๆ ระหว่างเด็กมาตรฐานสูงกับ เด็กที่นิยมความเป็นเลิศหรือพวกรักความสมบูรณ์แบบที่เราต้องระมัดระวัง การที่เด็กๆ มีอาการอาละวาด โวยวาย แบบสุดพลัง ตีอกชกตัว ร้องให้เสียใจทุกครั้งที่ทำอะไรผิดพลาด ถือเป็นปัญหาที่น่ากังวลใจ อาการทำผิดไม่ได้ แพ้ไม่เป็นสามารถส่งผลกระทบทางจิตใจ และพฤติกรรมของเด็กคนนั้นในระยะยาว หรืออาจตลอดทั้งชีวิต ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย

ผู้นิยมความเป็นเลิศหรือพวกรักความสมบูรณ์แบบ คืออะไร
เจ้าแห่งความสมบูรณ์แบบมักตั้งเป้าหมายที่ไม่เป็นจริงให้กับตนเอง และจะกดดันตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เกินจริงนั้น สำหรับพวกเขา มันคือการที่ต้องทำให้ออกมาดีที่สุด หรือไม่ก็ไม่ยอมทำอะไรเลย แต่เมื่อประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะไม่สามารถมีความสุขกับความสำเร็จนั้นได้ เพราะมัวแต่คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา หรือได้มาเพราะโชคช่วย
อันตรายจากการเป็นเจ้าแห่งความสมบูรณ์แบบ
การกลัวความผิดพลาดดึงให้เด็กไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่กล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ
เด็กที่เป็นเจ้าแห่งความสมบูรณ์แบบมักแอบซ่อนความเจ็บปวดทางจิตใจและความกังวลใจต่างๆ ไว้ไม่ให้ใครเห็นเพราะต้องการรักษาภาพลักษณ์ความสมบูรณ์แบบไว้
ความเครียดอันเนื่องมาจากความวิตกกังวล การกลัวความล้มเหลวมักนำไปสู่ปัญหาทางจิต เช่นโรคซึมเศร้า ความวิตกกังวล และอาการทางจิตอื่นๆ ในที่สุด
อาการทำผิดไม่ได้ แพ้ไม่เป็นของเด็กรักความสมบูรณ์แบบ เป็นอย่างไร
ทำงานไม่เสร็จสักที เพราะสิ่งที่ทำไม่เคยดีพอ (ไม่สมบูรณ์แบบสักที!)
ผลัดวันประกันพรุ่ง หลีกเลี่ยงงานยากๆ
ระมัดระวังเกินกว่าเหตุ กลัวความผิดพลาด
ชอบตัดสินตนเอง หรือชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
ตั้งเป้าหมายเกินจริง และอารมณ์เสีย หงุดหงิดเมื่อทำตามเป้าหมายนั้นไม่ได้
รับคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้
ไม่ยืดหยุ่น เชื่อว่าปัญหานั้นๆ มีทางออกแค่ทางเดียวเท่านั้น
ตัดสินใจไม่เป็น หรือเรียงลำดับความสำคัญไม่ได้
ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดพฤติกรรมการรักความสมบูรณ์แบบ
ความกดดันด้านการเรียน – เด็กคิดว่าต้องมีผลการเรียนเป็นเลิศเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิต
ปัจจัยทางชีวภาพ – ความเจ็บป่วยทางจิต เช่นกลุ่มอาการย้ำคิดย้ำทำ ปัญหาพฤติกรรมด้านการกินที่ผิดปกติ
ปรารถนาที่จะเป็นที่รัก –พร่องความรัก การชื่นชม หรือต้องการช่วยลดความเครียดของพ่อแม่ หรือเพื่อเรียกร้องความสนใจ
ขาดความนับถือตนเอง – ไม่เคยพอใจในตนเอง มองเห็นแต่ข้อบกพร่องของตนเอง ไม่เชื่อว่าตนเองดีพอ
พ่อแม่รังแกฉัน – พ่อแม่สร้างความเชื่อผิดๆ ให้ลูกด้วยการตอกย้ำว่าลูกฉลาดที่สุด เก่งที่สุด จนกลายเป็นการสร้างความเชื่อให้ลูกว่าการทำผิดเป็นเรื่องไม่ดี หรือทำผิดไม่ได้ ลูกจึงต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเสมอถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ
อิทธิผลจากพ่อแม่นักนิยมความสมบูรณ์แบบ – พ่อแม่ที่เป็นคนรักความสมบูรณ์แบบ มักเลี้ยงลูกที่นิยมความสมบูรณ์แบบผ่านพฤติกรรมการเลียนแบบ หรือการได้รับยีนนิยมความสมบูรณ์แบบจากพ่อแม่
อิทธิพลจากสื่อ – สื่อสังคมมักสร้างภาพลักษณ์ของดารา หรือนักกีฬาที่มีชื่อเสียงว่ามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ การประโคมข่าวความผิดพลาดที่นำไปสู่ความล้มเหลวในชีวิตสร้างความเข้าใจผิดให้กับเยาวชนว่าพวกเขาต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ ผิดพลาดไม่ได้
ภาวะความชอกช้ำทางจิตใจ – ประสบการณ์การถูกทำร้ายทางจิตใจอาจสร้างความรู้สึกว่าไม่เป็นที่รัก หรือไม่เป็นที่ต้องการหากพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ
แนวทางการแก้ไขพฤติกรรมเจ้าแห่งความสมบูรณ์แบบ
ช่วยกันสร้างความนับถือตนเองให้เด็กๆ – ชวนเด็กทำกิจกรรมที่ช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้ตนเอง สร้างตัวตนให้พวกเขารู้สึกดีกับตัวเอง ไม่ใช่เฉพาะสิ่งที่เขาทำและประสบความสำเร็จ การเป็นอาสาสมัคร การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การทำงานศิลปะที่ช่วยกระตุ้นให้พวกเขามีมุมมองที่เป็นมิตรกับตนเอง
ช่วยเด็กๆ ระบุสิ่งที่ควบคุมได้และสิ่งที่ควบคุมไม่ได้- ชวนเด็กๆ มองสิ่งที่เขาทำอยู่ด้วยมุมมองที่หลากหลาย เช่นเขาอาจควบคุมเทคนิคการเล่นบาสเกตบอลของตนเองได้ หรือควบคุมการทำข้อสอบวิชาชีวฯได้ แต่พวกเขาควบคุมการออกข้อสอบของครูหรือการเล่นบาสเกตบอลของเพื่อนคนอื่นๆ ไม่ได้
การสนทนากับตนเองอย่างสร้างสรรค์ – เด็กๆ สามารถพัฒนาทักษะการสนทนากับตนเองอย่างมีเมตตาได้ การคุยกับตัวเองดังๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมีเมตตาแทนที่จะมุ่งตำหนิตนเองนั้นช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้การให้อภัยตนเอง การแสดงให้ลูกเห็นว่าเราเองก็ผิดพลาดได้และเราก็ให้อภัยตนเองได้ช่วยคลายทุกข์เรื่องการกลัวความล้มเหลว
หมั่นตรวจสอบความคาดหวังของตนเอง – อย่าโยนความคาดหวังของตนเองมาไว้บนบ่าลูก ช่วยลูกสร้างเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ หากลูกต้องการเลิกกลางคันหรือท้อแท้ พ่อแม่สามารถชวนคุยกับลูกเพื่อหาสิ่งที่ลูกต้องการหรือไม่ต้องการที่จะทำ โดยหาทางออกที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกันได้
ชมลูกที่ความพยายามมากกว่าผลลัพธ์ที่ปลายทาง – ให้ความสำคัญกับกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ เช่นแทนที่จะชมลูกว่าเก่งจังที่สอบได้ ๑๐๐ คะแนนเต็ม ควรชมเขาว่ามีความพยายามในการเรียน และชื่นชมที่ลูกเป็นคนมีจิตใจดี และเป็นเพื่อนที่ดี เพื่อชี้ให้เห็นว่าการเรียนเก่งไม่ใช่คุณสมบัติของการประสบความสำเร็จในชีวิต และไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
เล่าเรื่องความล้มเหลวของตนเองให้ลูกฟัง – แบ่งปันประสบการณ์ความล้มเหลวของตนเองเพื่อสอนลูกให้รู้จักวิธีการจัดการความผิดพลาดจากประสบการณ์ของพ่อแม่
สอนให้ลูกล้มเป็น –ความล้มเหลวอาจเป็นความรู้สึกที่หดหู่ แต่มันก็ใช่ว่าจะเกินทน การพูดคุยกับเพื่อน การเขียนบันทึกประจำวัน และการวาดภาพช่วยรับมือความผิดพลาดของตนเองได้อย่างสร้างสรรค์
Suggested additional reading:



Comments